วันศุกร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2553

ราชบุรี พบ เมืองกาญจน์


ราชบุรีเอฟซี Vs. เมืองกาญจน์เอฟซี
สนามกีฬากลางจังหวัดราชบุรี เวลา 17.30 น.


เริ่มทำการแข่งขันเวลา 17.30น. ซึ่งก่อนการแข่งขัน ได้มีผู้ใหญ่คนสำคัญ ๆ ของจังหวัดราชบุรี ได้มาร่วมชมและให้กำลังใจทีมราชบุรีเอฟซี อาทิ เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายสุเทพ โกมลภมร , นายบุญลือ ประเสริฐโสภา , นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีตรมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร , นายมานิตนพ อมรบดี อดีต รมช.สาธารณสุข , นางบุญยิ่ง นิติกาญจนาที่ปรึกษารมว.กระทรวงพาณิชย์ และที่ปรึกษาสโมสรราชบุรีเอฟซี และท่ามกลางกองเชียร์ รวมถึงแฟนคลับของทั้งสองทีม ค่อนข้างหนาตา เปิดเกมขึ้นมาทั้งสองทีมไม่รีรอ ใช้ผู้เล่นที่ฟอร์มสดและแข่งแกร่งรุกเข้าใส่กันทันที แม้ว่าสภาพสนามจะค่อนข้างลื่นเนื่องจากฝนตกลงมาก่อนหน้าการแข่งขัน แต่อย่างไรก้อตามทั้งสองทีมก็ยังสร้างความหวาดเสียวให้กองเชียร์ได้ลุ้นอยู่ตลอดเวลา แต่ยังไม่มีใครปิดสกอร์ได้ จนกระทั่งนาทีที่ 28 ราชบุรีเอฟซี ได้ลูกโทษนอกเขตโทษ และเป็น อนุสรณ์ สีมี บรรจงซัด ลูกทะลุผ่านกำแพงเข้าประตูโดยที่มือทวารเมืองกาญจน์เอฟซี ได้แต่ยืนดู เจ้าบ้านขึ้นนำ 1:0 หลังจากนั้นเมืองกาญจน์เอฟซี ก็เปิดฉาก เดินหน้าตะลุยบุกหวังเอาประตูคืน แต่กองหน้ายังไม่คมพอ แม้ว่าบางจังหวะน่าจะได้ประตู แต่คานช่วยเซฟเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิดและอีก หนึ่ง นาทีต่อมา “กฤษนะ ทับทิมแก้ว” ประตูราชบุรีเอฟซี ก็ช่วยอีกครั้งและต้องแลกกับการบาดเจ็บถึงนิ้วมือหักต้องเปลี่ยนเอา อัครเดช สาวสุชาติ ลงไปเล่นแทน หมดการแข่งขันครึ่งเวลาแรก ราชบุรีเอฟซีนำ 1:0

*ในช่วงเวลาพักครึ่งมีการมอบเงินจากกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าจังหวัดราชบุรี โดยมีการมองเงินดังกล่าวสนับสนุนทีมสโมสร ราชบุรีเอฟซี 2,500,000 บาท ( สองล้านห้าแสนบาทถ้วน ) โดยเงินดังกล่าวมอบผ่านสมาคมกีฬาจังหวัดราชบุรี

เปิดเกมมาใหม่ในครึ่งเวลาหลังทั้งสองมทีมก็ยังคงเปิดเกมบุกใส่กันเหมือนเดิมและยังคงเป็นด้านราชบุรีเอฟซี ที่ครองบอลได้มากกว่า แต่ยังไม่สามารถยิงประตูเพิ่มได้แต่โชคร้ายมาเยือนเจ้าบ้านจนได้ เมื่อเมืองกาญจน์เอฟซี ขึ้นพลทางกาบซ้าย “ฉัตรมงคล จันทร์สำเภา” ตวัดยิงด้วยเท้าขวา บอลพุ่งปานจรวดเสียบเสาสองเข้าไปอย่างงดงาม ทีมเยือนตีเสมอ สกอร์ขยับเป็น 1:1 เมื่อโดนตีเสมอราชบุรีเอฟซีก็เปิดเกมรุกอีกครั้งและหวิดออกนำอีกครั้งจาดศูนย์หน้าผิวสี อีริค เก็มเด็ม แต่กองหลังเมืองกาญจน์เอฟซี เคลียร์ออกไปได้อย่างหวุดหวิด จากนั้นทั้งสองทีมก็ยังคงผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำ และสภาพสนามค่อนข้างลื่น ทำให้จังหวะการเดิมเกมขาด ๆ เกิน ๆ และมีการทำฟาล์วกันบ่อยครั้งขึ้น รวมทั้งผู้เล่นทั้งสองทีมก็ได้รับใบเหลืองไปฝ่ายละ สอง คน แต่ไม่มีอะไรรุนแรง จนกระทั้งนาที ที่ 76 ราชบุรีเอฟซี ก็ได้เฮอีกครั้ง เมื่อขึ้นบอลทางกาบซ้ายพลกองหน้า และเปิดเข้ากลางประตู โกวิทย์ กองแก้ว เทคตัวขึ้นโขกเต็มกบาล เข้าแสกหน้า อีริค ประตูทีมเยือน ผวาปิดไม่ทัน ราชบุรีเอฟซี 2 เมืองกาญจน์เอฟซี 1 จากนั้นเริ่มดุเดือดขึ้น แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หมดเวลาการแข่งขัน ราชบุรีเอฟซี รับ สาม แต้มในบ้านได้สำเร็จ ด้วยสกอร์ 2:1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น